ก่อนจะซื้อ-ขายบ้าน รู้ไว้ดีกว่า…เพราะสัญญานี้ช่วยคุ้มครองทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่ให้ใครเปลี่ยนใจกลางคัน
สัญญาจะซื้อจะขาย คือ ข้อตกลงล่วงหน้า ระหว่าง “ผู้ขาย” และ “ผู้ซื้อ” ที่ระบุว่า ทั้งสองฝ่าย “ตกลงจะทำการซื้อขายทรัพย์สินกันในอนาคต” แต่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์จริงในตอนนี้

ความสำคัญของสัญญาจะซื้อจะขาย

• ป้องกันการผิดสัญญา
  
  • หากผู้ขายเปลี่ยนใจไม่ขาย หรือผู้ซื้อเปลี่ยนใจไม่ซื้อโดยไม่มีเหตุผล สัญญาฉบับนี้สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายได้
• คุ้มครองทั้งสองฝ่าย
  
  • สัญญาจะช่วยระบุสิทธิและหน้าที่อย่างชัดเจน เช่น ใครต้องจ่ายค่าภาษี ค่าโอน ค่านายหน้า ฯลฯ
• ใช้เป็นหลักฐานประกอบการกู้ธนาคาร
  
  • ธนาคารมักต้องใช้สัญญาจะซื้อจะขายเพื่อประกอบการพิจารณา สินเชื่อของผู้ซื้อ
• สร้างความมั่นใจให้ทั้งสองฝ่าย
  
  • ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อจะรู้ว่าอีกฝ่ายจริงจังกับการทำธุรกรรม

ตัวอย่างสถานการณ์จริง‍

นาย A ต้องการซื้อบ้านจากนาย Bราคา 3 ล้านบาท ก่อนทำสัญญาทั้งสองฝ่ายทำข้อตกลงกันว่า

1. นาย B (ผู้ขาย) รับผิดชอบภาษีเงินได้จากการขาย และอากรแสตมป์
2. นาย A (ผู้ซื้อ) รับผิดชอบค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และค่าจดจำนอง (ถ้ามีการกู้ธนาคาร)

ในสัญญาระบุวันโอนกรรมสิทธิ์คือ 11 ธันวาคม 2568 ที่สำนักงานที่ดิน เมื่อถึงวันจริง ทั้งสองฝ่ายเตรียมเอกสารและเงินครบถ้วน เจ้าหน้าที่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ เสร็จสิ้นราบรื่น โดยไม่มีข้อโต้แย้ง สัญญานี้จะช่วยให้ทุกอย่างเป็นระบบและชัดเจน ไม่ต้องกลัวปัญหาในภายหลัง

‍